เครื่องให้การรักษาด้วยแสงเลเซอร์กำลังสูง

คุณลักษณะทางเทคนิค

•  เป็นเครื่องมือให้การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ชนิดกำลังสูง ที่มีความยาวคลื่น (Wavelengths) ทั้งหมด 4 ช่วงคลื่น ประกอบด้วย 650, 810, 915 และ 980 นาโนเมตร
• สามารถให้พลังงานในการรักษาได้สูงสุดไม่น้อยกว่า 30.3 วัตต์ โดยแบ่งเป็น 
  1. ความยาวคลื่น 650 นาโนเมตร ให้พลังงานสูงสุด 300 มิลลิวัตต์
  2. ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร ให้พลังงานสูงสุดไม่น้อยกว่า 10 วัตต์
  3. ความยาวคลื่น 915 นาโนเมตร ให้พลังงานสูงสุดไม่น้อยกว่า 10 วัตต์
  4. ความยาวคลื่น 980 นาโนเมตร ให้พลังงานสูงสุดไม่น้อยกว่า 10 วัตต์
• สามารถเลือกการใช้งานการปล่อยคลื่นได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ Continuous wave และ Repeat pulse
• สามารถตั้งค่าช่วงกระตุ้น (Pulse period) ได้ตั้งแต่ 10 ไมโครวินาที – 3 วินาที
• สามารถตั้งค่าช่วงพัก (Pulse period) ได้ตั้งแต่ 10 ไมโครวินาที – 3 วินาที
• สามารถปรับความถี่ได้ตั้งแต่ 1Hz – 20kHz
• หน้าปัดของเครื่องเป็นระบบสัมผัส (Touch screen) จอสี ขนาด 7 นิ้ว แสดงค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ในการรักษา ได้แก่ Avg Power, Peak Power, Frequency, T on, T off, Duty Cycle, Phase Time, Total Time, Phase Energy และ Total Energy 
• มีโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อสะดวกในการเลือกรักษาแบ่งตามส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนี้ Head, Cervical, Shoulder, Thoracic, Elbow, Wrist, Lumbar, Hip, Sacrum, Thigh, Knee, Calf, Ankle และ Foot
• มีระบบการตั้งค่า ระดับสีผิวของผู้ป่วย (skin color), ระยะของรอยโรค (Chronicity) และ ระดับความเจ็บปวด (Pain Level) เพื่อเครื่องจะปรับค่าพารามิเตอร์ให้เหมาะสมกับการรักษา
• มีลำแสงนำทางในการรักษา (navigation light)
• มีการตั้งรหัสผ่านสำหรับการเข้าใช้งาน เพื่อความปลอดภัย ในการป้องกันผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ไปใช้งาน
• สามารถบันทึกโปรแกรมการรักษาเพิ่มเติมได้ ทั้งรูปแบบ Favorites และ Record
• มีวีดีโอสาธิตการใช้งานภายในตัวเครื่อง เพื่อความสะดวกในการเรียนรู้และทบทวนการใช้งานอย่างถูกวิธี
• ตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ในตัวเพื่อความสะดวกในการนำไปใช้งานนอกสถานที่ โดยไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟ

คำเตือน ข้อควรระวัง ข้อห้ามใช้

“อ่านคําเตือนในฉลาก และเอกสารกํากับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้”

คำเตือน

การบำบัดด้วยเลเซอร์

• ใช้โดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
• ในขณะเปิดเครื่อง ควรใส่แว่นกันรังสีทั้งผู้ใช้และผู้เข้ารับการรักษา
• อาหาร ยา และสารบางชนิดอาจส่งผลให้เพิ่มผลของรังสี จึงควรปรึกษาแพทย์
• นำวัตถุที่มีผิวสะท้อนแสงออกจากห้องหรือใช้ผ้าคุมปิดไว้ (ได้แก่กระจก พื้นโลหะ หน้าต่าง เครื่องมือและอุปกรณ์อื่นๆ)
• ติดไฟพิเศษที่นอกห้อง แจ้งเตือนว่ามีการใช้แสงเลเซอร์ระหว่างทำการรักษา
  ในห้องมีแสงไฟเพียงพอ เพื่อให้รูม่านตามีการหดตัว
• ระหว่างการรักษา ผู้ให้การบำบัดต้องเฝ้าระวังอย่างถี่ถ้วนตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะปลอดภัย

การบำบัดด้วยความเย็น-ความร้อน

• ใช้โดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
• เครื่องดังกล่าวอาจก่อให้เกิด
  
  • การช็อคหรือหมดสติ จากการทำงานของเครื่องที่ผิดปกติหรือเกิดการบาดเจ็บจากกระแสไฟฟ้ารั่ว
  • อันตรายต่อเนื้อเยื่อ อันเป็นผลจากความผิดพลาดในการควบคุมอุณหภูมิในขณะทำให้เกิดความเย็นต่อเนื้อเยื่อ
• ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 30 นาที
• ผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 6 ปี
• ผู้ที่มีความผิดปกติในระบบหลอดเลือดหัวใจอย่างรุนแรง
• ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉียบพลัน (มีผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ)
• บริเวณที่มีแผลเปิด หรือแผลติดเชื้อ
• บริเวณผิวหนังที่มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงส่วนปลายน้อยลง
• บริเวณเนื้อเยื่อที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่
• ผู้ที่ผ่านการรักษาด้วยรังสีเอ็กซเรย์หรือการฉายรังสีที่ใช้ประจุในบริเวณที่จะทำการรักษา (ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา)
• บริเวณเนื้อเยื่อที่เป็นเนื้องอก
• ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต
• ผู้ที่มีอารมณ์ปรวนแปร
• ผู้ที่มีไข้เฉียบพลัน
• ผู้ป่วยด้วยภาวะ Raynaud
• ผู้ที่มีภาวะ Cryoglobulinaemia
• ผู้ที่มีเส้นประสาทงอกใหม่ในระยะแอ๊คทีฟบริเวณที่จะทำการบำบัด
• ผู้ที่มีปัญหาแพ้ต่อความเย็น
  
  

ข้อควรระวัง

การบำบัดด้วยเลเซอร์

• บริเวณ Epiphysis ของเด็ก
• บริเวณเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ
• บริเวณ Sympathetic ganglia, vagus nerve
• บริเวณทรวงอก และหัวใจของผู้ป่วยโรคหัวใจ
• บริเวณอวัยวะเพศ
• บริเวณที่ไวต่อแสง

การบำบัดด้วยความเย็น-ความร้อน

• ผู้ที่มีสภาวะการรับรู้ความรู้สึกเสียไป
• ผู้ที่มีความไวต่อความเย็น
• บริเวณที่มีบาดแผลเปิด

ข้อห้ามใช้

การบำบัดด้วยเลเซอร์

• บริเวณตา
• บริเวณที่มีเนื้องอก
• ผู้ที่มีไข้สูง
• บริเวณที่ได้รับรังสีรักษา
• บริเวณหน้าท้องในหญิงมีครรภ์
• ผู้ที่มีความผิดปกติเรื่องเลือดออก
• ผู้ที่มีความบกพร่องในภูมิคุ้มกัน
• ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว, ไตล้มเหลว, ตับล้มเหลว
• ผู้ที่ใช้เครื่องควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ (Cardiac pacemaker) หรือมีความผิดปกติในระบบหลอดเลือดหัวใจอย่างรุนแรง
• ผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต
• ผู้ที่มีภาวะทางอารมณ์ไม่มั่นคง
• ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉียบพลัน (ผื่นคัน, ผิวหนังอักสบ)
• ผู้ที่มีไข้เฉียบพลัน
• ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาที่ทำให้ไวต่อแสง
• ผู้ที่ใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
• บริเวณที่ไวต่อแสง
• บริเวณที่สักสีเข้ม (อาจมีอันตรายจากผิวไหม้) ในกรณีที่เป็นการฉายเลเซอร์บนรอยสัก อาจทำให้สีจางลงได้
• บริเวณไฝสีเข้ม

การบำบัดด้วยความเย็น-ความร้อน

• ผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดปกติ ได้แก่ Arteriosclerosis, raynaud’s syndrome
• ภาวะอักเสบเฉียบพลัน
• โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
• โรคหลอดเลือดดำภายในอุดตัน (Deep vein thrombosis)
• โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
• มีแผลเปิด บริเวณที่จะรักษา
• มีการรับความรู้สึกที่ผิวหนังผิดปกติ หรือสูญเสียการรับความรู้สึกที่ผิวหนัง เช่น (ในผู้ป่วยเบาหวาน) Skin sensation impairment (g. some diabetic patients)
• ภาวะความผิดปกติทางการรับรู้ขั้นรุนแรง เช่น (ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม)