เรายังเชื่อในคำถามเดิม... แต่เรากลายเป็นคำตอบที่ใหญ่กว่าเดิม
เมื่อครั้งที่เราร่วมกันก่อตั้งบริษัท ประภัสสร จุดเริ่มต้นของเรานั้นเรียบง่ายแต่หนักแน่น
เราไม่ได้เริ่มต้นด้วยทุนหนา หรือเครือข่ายขนาดใหญ่
แต่เราเริ่มต้นจากสิ่งที่มีค่าที่สุด นั่นคือ ความตั้งใจ
เรานั่งล้อมวงกันและถามตัวเองว่า…
“เราจะเป็นบริษัทแบบไหน?”
ไม่มีใครตอบว่าเราจะเป็นเบอร์หนึ่ง
ไม่มีใครบอกว่าเราจะโตเร็วที่สุดในตลาด
แต่เราทุกคนเห็นพ้องกันในคำตอบเดียวคือ…
“เราจะเป็นบริษัทที่ลูกค้าไว้วางใจได้เสมอ”
เพราะเราจะทำ สินค้าดี มีคุณภาพ จัดส่งมอบตรงเวลา
จากผู้จัดจำหน่าย… สู่ผู้สร้างมาตรฐาน
ในช่วงแรก เราไม่ได้เป็นผู้นำเข้าเอง
แต่เราทุ่มเททุกแรงกายแรงใจในการคัดสรรผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรที่ไว้วางใจได้
เราเป็นเพียง “ตัวกลาง” แต่เราเลือกเป็นตัวกลางที่รับผิดชอบต่อคุณภาพอย่างถึงที่สุด
แต่เมื่อเราเดินต่อไปได้ระยะหนึ่ง เราพบว่า
แม้สินค้าเราจะดีเพียงใด หากเราควบคุมเวลาไม่ได้ ดูแลลูกค้าหลังการขายไม่ได้
ความเชื่อใจ ที่เราสร้างมาก็อาจสั่นคลอน
ปี 2018 เราตัดสินใจครั้งสำคัญ —
เป็นผู้จัดจำหน่ายที่นำเข้าเอง และดูแลแบบครบวงจร
เพื่อยกระดับจากผู้ขาย เป็นผู้ให้บริการเต็มรูปแบบ
พร้อมนิยามใหม่ว่า
“One Stop Shop Solutions” — ครบ จบ ที่เดียว
คำนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดทางการตลาด
แต่คือภารกิจที่เราสร้างขึ้นในทุกขั้นตอน ตั้งแต่จัดซื้อ บริการ ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาหน้างาน
ขยายพื้นที่ ขยายใจ
จากวันนั้นจนวันนี้ ประภัสสรเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เราไม่ได้เติบโตเพียงในแง่ของยอดขาย
แต่เราเติบโตใน ความเข้าใจลึกซึ้งต่อระบบสุขภาพของประเทศ
เราเลือกเจาะลึกเฉพาะด้านที่เราถนัด — กายภาพบำบัด และการตรวจสมรรถภาพปอด
เราลงลึกในความรู้ พัฒนาเทคนิคการบริการ และฝึกฝนทีมให้เข้าใจงานเชิงลึก
เพราะเราเชื่อว่า “ความรู้จริง” คือสิ่งเดียวที่ทำให้เราสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ
เราคือใครในโลกใบนี้
เราได้นำแนวคิดนี้มาทบทวนและปลูกฝังไว้ในหัวใจขององค์กร
เพราะเรารู้ดีว่า… บริษัทที่มีแต่เป้าหมายทางธุรกิจ จะไปได้เร็ว
แต่บริษัทที่มี “ปรัชญา” จะไปได้ไกล และไปได้อย่างมีความหมาย
ปรัชญาใหม่ของเราในวันนี้ คือ…
“เราจะสร้างผลกระทบเชิงบวก ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา”
เรามองธุรกิจไม่ใช่แค่ “การซื้อขาย”
แต่คือ พันธะ
กับลูกค้า
กับทีมงาน
กับคู่ค้า
กับสังคม
และกับมาตรฐานสุขภาพของประเทศนี้
เราจะไม่ส่งมอบสินค้าเพียงเพราะมันขายดี
แต่จะส่งมอบเฉพาะสิ่งที่เราเชื่อว่า
“มันดีพอสำหรับคนที่เรารัก”
ถึงผู้ที่อ่านบทความนี้อยู่…
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
อย่ากลัวที่จะกลับมาทบทวนว่า
“คุณยังเชื่อในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกหรือเปล่า?”
หากคุณเป็นทีมงานในองค์กรใดก็ตาม
ขอให้คุณได้เห็นว่าทุกบทบาทของคุณ ล้วนมีส่วนสร้างสิ่งใหญ่ได้ หากมีหัวใจที่มุ่งมั่น
และหากคุณเป็นใครก็ตามที่กำลังเริ่มต้นสิ่งใหม่
จำไว้ว่าการจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ไม่ได้เริ่มจากการวิ่งให้เร็ว
แต่มันเริ่มจากคำถามเดียวกับที่เราถามตัวเองวันนั้น…
“เราจะเป็นบริษัทแบบไหน?”
และเมื่อคุณตอบได้ด้วยหัวใจ
คุณจะไม่เพียงแค่เป็นบริษัทที่มีคนรู้จัก
แต่จะเป็นบริษัทที่ ใคร ๆ ก็อยากเดินร่วมทางด้วย